10 ร้านแนะนำในโตเกียว
Isomaru Suisan Asakusa Kannondori
Isomaru Suisan ร้านดังที่มีสาขาทั่วญี่ปุ่น ความโดดเด่นคือร้านนี้จะเปิดตลอด 24 ชม.
มีหลายสาขาในโตเกียว อาทิ asakusa ueno
Kani (crab) Miso เป็นมันปูที่หอมมากๆ เวลาย่างจะเดือดปุดๆ รสชาติหอมมันไม่เลี่ยน
YOSUKE NO UDON
เริ่มต้นมื้อแรกของการมาเยือนญี่ปุ่นกันด้วยร้านอูด้งสุดอร่อย ปกติแล้วเวลาเรารับประทานเส้นอูด้งที่เมืองไทยจะมีแต่เส้นใหญ่และค่อนข้างหนา แต่ถ้ามาที่ลิ้มลองเส้นอูด้งถึงญี่ปุ่นทั้งทีก็คงจะต้องลองเส้นอูด้งแบบ Inaniwaกันดูสักหน่อย เพราะความอร่อยของเส้น Inaniwaจะอยู่ตรงที่เส้นบางเล็ก เวลารับประทานเส้นจะนุ่มลื่นไหล ละลายในปาก และถ้ามาร้านนี้ขอแนะนำให้ลองอูด้งเย็นเพราะจะทำให้ได้สัมผัสของเส้นที่เหนียวนุ่มเป็นอย่างดี หรือจะเป็น Tempura Udonก็น่าลิ้มลองไม่แพ้กันเลยทีเดียว โดยเวลาเสิร์ฟทางร้านจะแยกเส้นและตัวเทมปุระต่างหากเพื่อให้คงความกรอบอร่อยไว้ได้อย่างเดิม
1-2-9 Nishishinbashi | Hibiya Central Bldg. B1, Minato
+81-3-3595-6288
การเดินทาง: ลงสถานีรถไฟได้ทั้ง Shinbashiและ Toranumon
QU’IL FAIT BON
อิ่มท้องแล้วก็ตามด้วยของหวานกันต่อเลยดีกว่า ซึ่งร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นที่ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นนิยมไปกินกัน นั่นก็คือ ‘Qu’il fait bon’ ร้านขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่งเศสที่อยู่ในย่าน Ginza ร้านนี้ขึ้นชื่อมากในเรื่อง ‘ทาร์ตผลไม้’ ซึ่งมีให้เลือกชิมกันอย่างจุใจหลายแบบ โดยเฉพาะสตอเบอร์รี่ที่ทางร้านจะเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพดี รสชาติอร่อย สำหรับคนที่ไม่ชอบขนมรสชาติหวานมากแนะนำให้สั่ง ‘ทาร์ตสตอเบอร์รี่ขาว’ ที่จะมีรสสัมผัสกรุบกรอบไม่หวานจนเกินไป ตัดกันได้ดีกับความหวานของแป้งทาร์ตที่อยู่ด้านล่าง แต่ถ้าหากใครชอบกินของหวานอยู่แล้วก็ต้อง ‘ทาร์ตสตอเบอร์รี่แดง’ หรือถ้าชอบกินผลไม้ชนิดอื่นก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ
2-4-5 1F B1FGinza Itchome,Chuo-ku, Tokyo, Japan
+81-3 - 3251 – 0287
การเดินทาง: ลงสถานีรถไฟ Ginza Itchome
MANNEKEN
ถ้ามีโอกาสเดินผ่านบริเวณสี่แยก Ginza ต้องห้ามพลาดร้านนี้ ‘Manneken’ ร้านวาฟเฟิลชื่อดังของโตเกียวที่มีต้นตำรับมาจากกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยมีวาฟเฟิลให้คุณได้เลือกทั้งหมดมากมายหลายรสด้วยกันทั้งแบบออริจินัลและ Seasonal Flavor อาทิ ช็อกโกแลต มันม่วง และทีรามิสุ ส่วนรสที่แนะนำและขายดีที่สุดต้องยกให้วาฟเฟิลแบบ ‘เคลือบช็อกโกแลต’ และแบบที่ราดด้วย ‘เมเปิ้ลไซรัป’ ส่วนรสชาตินั้นก็กรอบนอกนุ่มในและหวานหอมสุดๆ แนะนำว่าเป็นร้านเด็ดอีกร้านหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด
5-7-91 Ginza, Chuo-ku, Tokyo, Japan
เวลาเปิด-ปิด 11.00- 22.00
+81-3 - 3289 - 0141
การเดินทาง: ลงสถานีรถไฟ Ginza
KATSUZEN
เดินเล่นทานขนมกันจนเพลินจึงขอปิดท้ายวันนี้ด้วย ‘Katsuzen’ ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่มีขายแต่เฉพาะเมนูทงคัตสึอย่างเดียว แต่ทว่าไม่ธรรมดาเพราะว่าร้านนี้เป็นทงคัตสึที่ได้รับมิชลินสตาร์ โดยทางร้านก็จะคัดเลือกวัตถุดิบและเนื้อหมูจากตามภูมิภาคต่าง ๆ ของญี่ปุ่นมาเป็นอย่างดี ก่อนที่จะนำมาชุบแป้งสูตรพิเศษของทางร้าน เพื่อให้ได้ทงคัตสึแป้งบางกรอบนอกนุ่มในและจะใช้เนื้อชิ้นใหญ่ เวลากัดลงไปก็จะสัมผัสถึงเนื้อได้อย่างเต็มปากเต็มคำ โดยที่กินไปนาน ๆ จะไม่รู้สึกเลี่ยนเพราะจะใช้เนื้อหมูส่วนที่มีมันน้อย ส่วนอีกเมนูของทอดที่แนะนำคือ ‘ปอเปี๊ยะปู’ ที่ข้างในจะสอดไส้เนื้อปูมาให้แบบเยอะมาก ๆ ซึ่งถ้าใครชอบกินทงคัตสึก็สั่งเลยเพราะของเขาอร่อยทุกอย่างจริง ๆ
6-8-7 Ginza, Chuo 104-0061, Tokyo, Japan
+81-3 - 3281 - 8988
การเดินทาง: ลงสถานีรถไฟ Ginza
SUSHIKO-HONTEN
วันที่สองของการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น แน่นอนว่าก็ต้องห้ามพลาดร้านซูชิเจ้าดังที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว เปิดมาตั้งแต่ปี 1885 โดยจุดเด่นของร้านนี้ก็คือการเสิร์ฟซูชิทีละคำ โดยเชฟจะเลือกเมนูให้เองและแต่ละเมนูที่เชฟเลือกมานั้น อาจจะแตกต่างกันออกไปเพราะว่าเชฟเลือกที่จะใช้ของสดใหม่ รวมไปถึงวัตถุดิบตามฤดูกาลที่เลือกมาแล้วว่าต้องเป็นของที่ดีที่สุดเท่านั้น อีกทั้งเชฟยังคำนึงถึงเรื่องรสชาติ โดยจะมีการจัดซูชิให้มีรสชาติค่อยๆ เข้มข้นขึ้นตามลำดับ ก่อนจะปิดจบคำสุดท้ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถือว่าก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่ควรลองเพราะวิธีการนำเสนอซูชิของเชฟนั้นจะทำให้เราได้ลิ้มรสซูชิในแบบที่อร่อยที่สุดเลยก็ว่าได้
6-3-8 Ginza, Chuo-ku, Tokyo, Japan
+81-3 3571 – 1968
การเดินทาง: ลงสถานี Ginza
SUKIYABASHIJIRO
ถ้ายังไม่จุใจก็ต้องมาต่อที่ร้านซูชิของคุณปู่จิโร่ที่โด่งดังจนเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก ถึงขนาดมีหนังสารคดีชีวประวัติเป็นของตัวเอง เป็นร้านซูชิในตำนานที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยากจะมาลิ้มลองด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต โดยเมนูที่เสิร์ฟจะไม่เหมือนกันในแต่ละวัน โดยจะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบเรื่อย ๆ สำหรับ 1 เสิร์ฟซูชิจะให้ 20 คำ โดยทางร้านใช้วิธีการเสิร์ฟทีละคำ เรียงลำดับโดยเชฟ เคล็ดลับจะอยู่การใช้ข้าวอุ่นในการปั้นซูชิเพื่อดึงรสชาติปลาออกมาให้ได้มากที่สุด ถ้าหากใครอยากลองซูชิระดับในตำนานนี้ ก็รีบจองกันเนิ่น ๆ เลยนะคะ เพราะต้องจองเป็นเวลาล่วงหน้าถึง 1 เดือนโดยจะต้องให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นพาไป หรือไม่ก็ต้องจองผ่านโรงแรมระดับห้าดาวขึ้นไปจองให้ แม้ว่าออกจะลำบากสักหน่อย แต่รับรองว่าจะเป็นการเปิดประสบการณ์ที่คุ้มค่าสุด ๆ เลยก็ว่าได้
Basement 1st Floor, 2-15, Ginza 4-chome, Chuo-ku, Tokyo, Japan
เวลาเปิด-ปิด 11.30 – 14.00, 17.30 – 20.30
+81-3 - 3535 – 3600
การเดินทาง: ลงสถานีรถไฟ Ginza
IPPUDO
อีกหนึ่งร้านที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันเลยคือราเม็งที่ขยายสาขาไปหลากหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ทำให้การันตีได้ว่ารสชาติราเม็งของ Ippudo จะต้องเป็นที่ถูกอกถูกใจหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน เอกลักษณ์ของราเม็งที่นี่คือความหอมนุ่มของเส้นในแบบโฮมเมตและความกลมกล่อมของน้ำซุป ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ อีกทั้งเชฟของที่ร้านนี้ยังได้รางวัลการันตีในการเป็นแชมเปี้ยนราเม็งถึง 3 สมัยซ้อน ดังนั้นจึงหายห่วงในเรื่องของรสชาติและการบริการไปได้เลย
1-3-12 Hiroo, Shibuya 150-0012, Tokyo
เวลาเปิด-ปิด 11:00 - 2:00
+81-3-5420-2225
การเดินทาง: ลงสถานีรถไฟShibuya
PABLO
รับประทานของคาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปิดท้ายวันนี้ด้วยร้านขนมชีสเค้กชื่อดังจากโอซาก้า โดดเด่นด้วยด้วยแป้งบางกรอบแบบมิลล์เฟยอัดแน่นไปด้วยชีสเนื้อเนียนละเอียดคุณภาพดี ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะอบแบบ Rare หรือ Medium เพื่อให้ได้รสสัมผัสละลายในปากที่แตกต่างกัน ด้วยความอร่อยในแบบเฉพาะตัวเลยทำให้ทุกวันเราจะเห็นคนจำนวนมากต่อคิวเพื่อซื้อชีสเค้กของร้านนี้ แต่ขอรับรองว่าการยอมอดทนต่อแถวที่ยาวเหยียดนั้นคุ้มค่าที่จะรอแน่นอน คนที่ชื่นชอบกินชีสหรือชีสเค้กต้องห้ามพลาดเลยร้านนี้เลยนะคะ
Shoto, Shibuya Station Hachiko-guchi, Shibuya Station
เวลาเปิด-ปิด 11.00-22.00
+81-3-3462-8268
การเดินทาง: ลงสถานีรถไฟ Shinjuku
YELO
หากใครที่เดินช็อปปิ้งจนเหนื่อยก็ลองมาแวะเติมความสดชื่นด้วยน้ำแข็งไสจากร้าน Yeloกันก่อนได้แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าโดยปกติคนญี่ปุ่นจะชอบรับประทานน้ำแข็งไสในเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น แต่ถ้าหากมาที่ร้าน Yelloแห่งนี้จะได้ลิ้มรสความอร่อยของน้ำแข็งไสไปตลอดทั้งปี แม้ว่าอากาศจะหนาวติดลบร้านนี้ก็ยังคงขายอยู่ตลอดซึ่งแน่นอนว่าเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่มีให้เลือกหลากหลายรวมไปถึงเกล็ดนำแข็งที่นุ่มจนละลายในปาก บวกกับทางร้านจะมีให้เลือกหลากหลายรสชาติรวมทั้งท็อปปิ้งอีกมากมาย และที่สำคัญไม่หวานจนเกินไปอีกด้วยค่ะ
Patio Roppongi 1F, Minato-ku, Tokyo, Japan
เวลาเปิด-ปิด 11.00-23.00 น.
+81-3-3423 - 2121
CR.http://www.happ-it.com/2013/th/article_detail.php?id=102&pantip
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น